Pay per click
Pay per click เป็นการ โฆษณา ผ่านทางตัวแทนเว็บ เพื่อทำการ โฆษณา เว็บของคุณ โดย ค่าใช้จ่าย จะคิดจากจำนวนคลิกเป็นหลัก หากไม่มีจำนวนของการคลิก ก็จะไม่เสียเงินค่าโฆษณาแต่อย่างใด แต่อาจจะมีแตกต่างไปบ้างตามแต่ข้อตกลงแต่ละค่าย เช่น อาจจะมีการคิดเพิ่มเติมในรูปแบบของ ePPM หรือ จำนวนการแสดงโฆษณาต่อการแสดงหนึ่งพันครั้ง
ในปี 2550 กูเกิล ได้เสนอระบบใหม่ Pay-Per-Action ซึ่งอยู่ในขั้นทดลอง โดยเปลี่ยนจากระบบการจ่ายเงินค่าโฆษณาตามจำนวนที่มีคนคลิกเข้าไปดู เป็นการจ่ายเงินตามการกระทำที่กำหนด เช่น ซื้อของอย่างน้อยหนึ่งชิ้น หรือเข้าดูหน้าใดหน้าหนึ่ง โฆษณา PPC นั้นคือการลงโฆษณาผ่าน search engine ต่าง ๆ เช่น Google, Yahoo, MSN ใน keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ วิธีนี้จะคล้ายคลึงกับการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพียงแต่เว็บของคุณจะปรากฎอยู่ทางขวามือในส่วนของโฆษณา (ในขณะที่ SEO จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ) โดยคุณจะเสียเงินค่าโฆษณาก็ต่อเมื่อมีคนคลิกโฆษณาของคุณเท่านั้น หากแสดงเฉย ๆ จะไม่เสียเงินค่าโฆษณา
โฆษณา PPC มีจุดเด่นเหมือนการทำ SEO (ข้อ 2) ซึ่งจะมีข้อดีอีกประการที่ชัดเจนคือ คุณสามารถทำ PPC หรือลงโฆษณาผ่าน Google ได้ทันทีภายในเวลา 1 วัน โฆษณาของคุณจะปรากฎขึ้นบนเว็บ Google และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ทันใจ ซึ่งตรงนี้คุณสามารถยืดหยุ่นได้สูง เช่น การเลือก keyword ตามที่คุณต้องการ หรือเปลี่ยนตามใจคุณ จุดเด่นอีกประการคือ คุณสามารถวัดผลโฆษณาได้อย่างชัดเจนด้วยระบบสถิติ เช่น มีคนคลิกไปกี่คลิก, คลิกด้วย keyword คำว่าอะไรบ้าง, มี order เข้ามาเท่าไร ดังนั้นหากคุณลงโฆษณาแล้วไม่ได้ผล ก็สามารถยกเลิกได้ทันท่วงที คุณจึงสามารถทดสอบ campaign ด้วยงบประมาณที่ต่ำมาก แต่มีโอกาสกำไรสูง หากผิดพลาดก็ทำให้เสีย cost ที่น้อยมาก
การจะเลือกทำการตลาดชนิดใด คุณควรจะเข้าใจในระบบของการตลาดชนิดนั้น ๆ ก่อน การตลาดทั้งสองชนิดนี้เหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงที่อยู่ตำแหน่งซ้าย (SEO) กับตำแหน่งขวา (PPC) , SEO จะเลือก keyword ได้จำกัด แต่จะได้คลิกไม่จำกัด และทำครั้งเดียวคงอยู่ระยะยาว (ตราบที่ยัง maintenance อยู่) ส่วน PPC จะเลือก keyword ได้ไม่จำกัด แต่คุณต้องเสียค่าโฆษณาทุกคลิดที่มีคนเข้าชม และต้องมีงบลงโฆษณาต่อเนื่องทุกเดือน ดังนั้นการเลือกวิธีการโปรโมทเว็บจึงต้องดูหลาย ๆ ปัจจัย เช่น คุณขายสินค้าหรือบริการอะไร, มี keyword ที่เกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน, งบประมาณที่คุณมี, วัตถุประสงค์ในการทำการตลาดของคุณ ฯลฯ ซึ่งทาง Ranksure ยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำบริการที่เหมาะสมกับคุณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น