4Ps+3Rs ปฏิวัติหลักการตลาด |
4Ps 3Rs ปฏิวัติหลักการตลาด
แม้จะไม่ได้ตายตัวเหมือนกับ E = mc2 แต่ 4Ps+3Rs ก็อาจช่วยสร้างความเข้าใจในหลักการทำตลาดดิจิทัลได้มากขึ้นกว่าเดิม
ในโลกของการตลาดโดยทั่วไป ที่สินค้าวางจำหน่ายอยู่ตามชั้นวางของบนร้านค้าทั้งหลาย หลักที่ใช้กันเป็นประจำจนท่องจำขึ้นใจ คงหนีไม่พ้น 4Ps ที่ประกอบด้วย Product, Price, Place และ Promotion
แต่บนโลกดิจิทัล ที่สินค้าและแบรนด์กลายเป็นเรื่องนามธรรม จับต้องได้ยาก หลัก 4Ps อย่างที่เคยรู้กัน คงไม่เหมาะสมกับสำหรับการตลาดดิจิทัล
ศ.ดร.เอียน เฟนวิค บอกว่า การจะทำตลาดดิจิทัลให้ประสบความสำเร็จ 4Ps ที่ควรรู้ไว้ ประกอบด้วย Permission, Participation, Profile และ Personal ซึ่งเข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้ดีกว่าเดิม
P ตัวแรก Permission หรือการขออนุญาต อาจดูแปลกไปสำหรับหลักการตลาด แต่บนโลกออนไลน์ที่มีการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลกันค่อนข้างมาก และตระหนักในเรื่องนี้ต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นของการบุกรุกทางอีเมล ดังนั้น การขออนุญาตจากผู้บริโภคจึงเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้
ไม่ควรติดต่อไปหากผู้บริโภคไม่อนุญาตให้ติดต่อ หากยังดื้อดึงต่อไปอาจสร้างความรู้สึกไม่ดีให้กับผู้บริโภคจนกระทั่งส่งผลเสียกลับมายังสินค้าและแบรนด์ได้
ตัวอย่างเช่น การให้สิทธิ์ผู้รับข่าวสารทางอีเมลในแบบทั้ง opt-in และ opt-out ซึ่งพวกเขาสามารถเลือกได้ว่าจะรับข้อมูลข่าวสารหรือไม่ รับในส่วนไหนบ้าง และอยากรับที่ความถี่ระดับไหน เป็นต้น
P ตัวที่สอง Participation หรือการมีส่วนร่วม นี่ถือเป็นหลักการตลาดที่สำคัญลำดับต้นๆ ยิ่งผู้บริโภคมีส่วนร่วมต่อข้อมูล และกิจกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นของสินค้าและแบรนด์มากเท่าไร จะช่วยให้พวกเขาเพิ่มความซึมซับ และการจดจำได้สูงขึ้นเท่านั้น
P ตัวที่สาม Profile หรือการเก็บข้อมูล ซึ่งสำหรับการตลาดดิจิทัลแล้ว การรวบรวมข้อมูลเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมาก โดยการเก็บข้อมูลในที่นี้หมายถึงการเก็บข้อมูลผู้เยี่ยมชมเว็บ หรือผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งอาจเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อนำมาต่อยอดในการทำกิจกรรมอื่นๆ หรือ CRM ต่อไปได้
P ตัวสุดท้าย Personalization การนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้มาใช้ให้เกิดประโชน์สูงสุด โดยต้องผ่านการวิเคราะห์ เพื่อสร้างความสะดวกให้กับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ในครั้งต่อไป ตัวอย่างเช่น amazon.com เว็บไซต์จัดจำหน่ายหนังสือ ที่มักเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้ทุกครั้งที่ล็อกอิน และจะแนะนำหนังสือในหมวดที่อยู่ในความสนใจ หรือหนังสือในหมวดที่เคยสั่งซื้อแล้ว เป็นต้น
ขณะที่ พรทิพย์ กองชุน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดประจำประเทศไทย กูเกิ้ล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอ 3 Rules of Engagement หรือกฎหลัก 3 ข้อที่ควรท่องจำให้ขึ้นใจ หากต้องการสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์สินค้าในโลกดิจิทัล
- Measure Everything คือ กฎข้อแรก การวัดผลก็ไม่ต่างจากการทำวิจัยสำรวจ แต่บนโลกออนไลน์ การวัดผลด้วยจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องดูให้รอบข้างโดยเฉพาะการวัดจาก Search Engine ว่า ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายใช้คำค้นหาอะไรมากที่สุด ซึ่ง Google Trends สามารถให้คำตอบนี้ได้ รวมทั้งยังค้นหาเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้ด้วย
- Stay Tuned to the Conversations ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของสินค้าและแบรนด์บนโลกออนไลน์ตลอดเวลา เพื่อดูว่ามีการพูดคุยหรือวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสินค้าและแบรนด์อย่างไรบ้าง หากเกิดความเข้าใจผิดพลาดหรือปัญหาตามมาจะได้แก้ไขได้ทัน
- Know Who Your Biggest Influencers Are กฎข้อสุดท้ายที่สำคัญที่สุด เพราะสำหรับผู้คนที่ใช้ชีวิตเกิน 6-10 ชั่วโมงไปกับอินเทอร์เน็ต ส่วนใหญ่มักมีพฤติกรรมการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าตามคำแนะนำและคำวิจารณ์ของกูรูที่อยู่ตามเว็บบอร์ด หรือบล็อกต่างๆ
ดังนั้น การเข้าให้ถึงผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์กลุ่มนี้จึงเป็นเรื่องจำเป็น
แต่การเข้าไปหาคงไม่สามารถจ่ายค่าจ้างให้ แล้วเขียนงานขึ้นมาชิ้นหนึ่งเพื่อเชียร์สินค้าหรือแบรนด์ตัวใดตัวหนึ่งได้ ต้องอาศัยการสร้างความสัมพันธ์และค่อยๆ นำสินค้าไปให้เหล่ากูรูผู้ทรงอิทธิพลทดลองใช้เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด
แล้วเหล่านักการตลาดจะสัมผัสถึงพลังของโลกดิจิทัลอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน
คัดลอกจาก : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 1 กันยายน 2552
Link : http://www.bangkokbiznews.com/
ขอบคุณภาพประกอบจาก google
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น